หรือชีวิตนี้ จะไม่มีทางทำธุรกิจประสบความสำเร็จ

ผมเป็นพนักงานออฟฟิศครับ มีอาชีพเสริมคือขับเดลิเวอรี่ ความใฝ่ฝันที่มีมาตลอดคือการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากทำลายเพดานการเงินในชีวิตทิ้งไปให้ได้ ทำงานมาเเปดปีเเล้วครับ เงินที่ได้หมดไปกับการชำระหนี้สินเป็นส่วนใหญ่จากวินัยทางการเงินที่เเย่ ในช่วงเเรกของการทำงาน

ตลอดเวลาเห็นคนรอบข้างประสบความสำเร็จจากการทำอาชีพเสริมกันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความหวังที่จะผลักดันชีวิตตัวเองและครอบครัว เพราะฐานะที่บ้านก็ถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ประกอบกับมายเซตในอดีตที่ทำให้ตัวเองไขว่คว้าโอกาสอะไรได้ไม่มากพอ

ผมเคยเจียดเงินลงทุนอยู่หลายรอบ เเต่ก็ล้มเหลวในระดับที่เรียกว่า จมทุนครับ ไม่ใช่ขาดทุน ถึงขนาด ทิ้งสินค้าเป็นขยะไปเลย

เริ่มจากครั้งเเรก ซื้อเลนส์กล้องเพื่อมารับงานถ่ายภาพ เเต่ปรากฎว่า ไม่มีลูกค้ามาจ้างเลยครับ
ลงโปรไฟล์ที่ไหนก็ถูกมองข้าม พอมองคู่เเข่งในตลาดก็ท้อใจครับ อุปกรณ์ของเขาไปไกลกว่าเราเยอะ ประเมินวงการผิดไปมาก เสียเงินไปหมื่นสี่ เเต่ต้องยอมครับ ช่างภาพอาชีพจริงๆ ของเล่นในตัวเขาเกินครึ่งเเสนทั้งนั้น ไอ้ผมก็ไม่กล้าลงทุนขนาดนั้น ไม่งั้นคงจะเจ็บหนักกว่านี้

รอบที่สอง ขายเเซนวิชสด ซื้อของเอง ทำใส้เอง อดหลับอดนอน เพื่อที่จะทำให้ทันออเดอร์ สรุปไม่คุ้มครับ กำลังการผลิตเราจำกัดมาก แถมลูกค้าก็เป็นคนในออฟฟิศช่วยกันซื้อ ขยายไปไหนก็ไม่ได้ จมทุนไปอีกประมาณ 5000 

รอบที่สาม บลูทูธติดรถยนต์ ลงทุนไป 3500ไม่รู้ช่องทางการขาย โพสต์เฟสไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีความรู้ใดในการสร้างยอดวิว สรุป น้าซื้อไปใช้ 1 อัน 350 และคุณภาพสินค้าห่วยเเตกมาก โยนทิ้งไปตามเคย

รอบที่สี่ ขับเเกรปคาร์ รถที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ 1.6 กินน้ำมันมาก วิ่งสี่ชั่วโมงหักกำไรเเล้วเหลือเเค่วันละร้อยห้าสิบ เเต่ด้วยในเวลานั้น หมดหนทางที่จะหาเงินเสริมอะไรต่อได้เเล้ว คิดอะไรไม่ออก
สุดท้ายเจอสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้น รถถูกน้ำท่วมขณะออกไปทำงาน เสียค่าซ่อมไปถึง 80000 บาท  ชีวิตเสียสมดุลทันที

เมื่อไม่มีทางเลือกจึงต้องนำมอเตอร์ไซค์คันเก่าออกมาวิ่งรับส่งอาหาร รายได้ถือว่าไม่ดีมาก 500-800 บาทต่อวัน เเต่ด้วยอายุรถที่เกินสิบปี ขี่ไปซ่อมไปเเละต้องมาใช้งานหนัก รถจึงลาโลกพร้อมค่าประเมินซ่อมอีกเกือบหมื่น ด้วยความใจร้อน จึงต้องไปออกรถใหม่โดยดาวน์ 0 เปอร์เซ็นต์ กลายเป็นว่าเงินที่ได้ จะต้องเอามาจ่ายค่างวดรถยนตร์ ค่างวดรถใหม่ ในใจตอนนั้น ประเมินด้วยความห้าวว่า ผ่อนไหว รถแรงขึ้น ต้องทำรอบได้มากขึ้น มันก็เป็นความจริงอยู่ครับส่วนต่างที่ได้ก็เอามาผ่อนตัวรถนี่ล่ะ ปัจจุบันเหลือไม่กี่งวดก็หมดล่ะครับ

รอบที่หก ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรควิดกำลังเเพร่ระบาด ทำให้ยอดสั่งซื้อเดลิเวอรี่ลดลงมาก เเถมยังมีคนขับหน้าใหม่ เเอฟพลิเคชั่นใหม่ๆออกมาแบ่งตลาด จนเริ่มรู้สึกตัวเองว่าควรไปทางอื่นได้เเล้ว สิ่งนี้กำลังจะตัน ด้วยความที่ช่วงหลัง ตัวเองเริ่มสนใจในเรื่องของสะสม เป็นรถของเล่นคันเล็ก จึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจังอยู่หลายเดือน เเต่ก็พบปัญหาใหญ่สุดเมื่อสินค้าของผมไม่สามารถเบียดเจ้าตลาดได้เลย ทั้งที่ลงราคาเท่ากัน เเละก็มีสินค้าบางตัวที่เราระบายออกมาไม่ได้ เพราะไม่ได้รับความนิยม ทั้งลด ทั้งเเจก ทั้งแถม สาระพัด เพื่อไม่ให้ขาดทุน ก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้งที่พยายามลองทุกอย่างที่ทุกคนเเนะนำ เเต่สุดท้าย อะไรก็ไม่เข้าทางเราสักอย่าง และรู้สึกเสียดายเงินเกือบสองหมื่นที่เรามั่นใจว่าจะถอนทุนคืนในเวลาที่เรากำหนดไว้ ทุกอย่างกำลังจะเข้าวังวนเดิม หรือผมไม่ควรยุ่งกับการขายของอีกต่อไปเพราะความรู้และเหลี่ยมมุมในการดำเนินธุรกิจมันไม่มากพอ

ถ้าพี่ๆอ่านถึงตรงนี้ ผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ ถึงผมอาจจะเรียบเรียงเรื่องไม่กระจ่างพอ ทุกอย่างที่เล่าจริงๆเเล้วมันมีดีเทลมากกว่านี้ เเต่หากขยายความคงจะต้องพูดกันหลายหน้ากระดาษ ผมอยากรู้จริงๆครับ ผมควรปรับปรุงมุมมองเเละความคิดในด้านไหน ผมรู้สึกเจ็บจนชาเเล้วครับ เเละเริ่มจะชินชากับความไม่ก้าวหน้าของตัวเอง ที่ไปไหนต่อไม่ได้ ผมควรเริ่มเเก้จากตรงไหนก่อนดีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่